เสื้อยืดกับการสกรีนนั้นเป็นของคู่กัน การผลิตเสื้อยืดนอกจากปัจจัยเรื่องแพทเทิร์น ทรงเสื้อที่สวยงาม เนื้อผ้าคุณภาพ และการตัดเย็บที่ดีแล้ว การสกรีน หรือ การพิมพ์เสื้อ ถือเป็นปัจจัยใหญ่ที่จะทำให้เสื้อยืดดูดีมากหรือน้อยเพียงใด
สารบัญเนื้อหา
- ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกใช้เทคนิคการสกรีน
- การสกรีน หรือการพิมพ์เสื้อประเภทต่างๆ
- การพิมพ์เสื้อแบบ ซิลค์สกรีน (Silk Screen)
- การพิมพ์เสื้อแบบ ซับลิมิชั่น (Sublimation) หรือ Heat Transfer
- การพิมพ์เสื้อแบบ Flex
- การพิมพ์ แบบ DFT (Digital Film Transfer)
- การพิมพ์เสื้อแบบ DTG
- การสกรีนเสื้อแบบฟอยล์
การสกรีน หรือการพิมพ์เสื้อยืดนั้น มีหลายเทคนิค แต่ละเทคนิคก็จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป และที่สำคัญ จะมีข้อจำกัดแตกต่างกันด้วย สิ่งที่กำหนดว่างานรูปแบบนี้ควรจะใช้เทคนิคการสกรีนอย่างไรนั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆ คือ
- ชนิดเนื้อผ้า
- รูปแบบงานที่ต้องการสกรีน
แต่ละเนื้อผ้านั้น จะไม่สามารถใช้เทคนิคการสกรีน หรือการพิมพ์ ได้เหมือนกันทุกประเภท และรูปแบบ หรือดีไซน์ของลายที่ต้องการสกรีน เมื่อใช้คนละเทคนิคกันผลลัพธ์ก็จะแตกต่างกันไป รวมถึงต้นทุนการผลิตเช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว หากมีลูกค้ามาสั่งเสื้อยืดพร้อมสกรีน หรือ สั่งเสื้อโปโลพร้อมสกรีน กับเรา เราจะมีทีมงานช่วยวิเคราะห์รูปแบบและ เสนอเทคนิคการสกรีนที่เหมาะสม และสอดคล้องกับบัดเจดของลูกค้า พร้อมให้คำปรึกษาอื่นๆ ให้อย่างรอบด้านอยู่แล้วค่ะ
แต่ในที่นี้ เราจะให้ความรู้คุณลูกค้าเกี่ยวกับการสกรีนประเภทต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินที่ดียิ่งขึ้น
1. Silk Screen
การสกรีนเสื้อแบบ Silk Screen เป็นการสกรีนรูปแบบที่นิยมมากที่สุดประเภทหนึ่ง เป็นการสกรีนที่ต้องใช้บล็อคสกรีน โดยกำหนดเป็น 1 สี ต่อ 1 บล็อค สีที่ทำการสกรีน หลักๆจะมีประเภทสียาง และสีน้ำ โดยช่างสกรีนจะทำการผสมสีเพื่อให้ใกล้เคียงกับแบบ หรือ แพนโทนมากที่สุด และปาดลงบนผืนผ้า
ข้อดี การสกรีนเสื้อแบบ Silk Screen
- งานสกรีนมีความคงทน หากดูแล รักษาถูกวิธี
- ราคาย่อมเยาหากสกรีนปริมาณมาก ตั้งแต่ 100 ตัวขึ้นไป
- งานสกรีนมีสีสันสดใส สีแน่น
ข้อเสีย การสกรีนเสื้อแบบ Silk Screen
- เมื่อใช้งานไปนานๆ งานสกรีนอาจมีโอกาสหลุดเล็กน้อย หรือแตกลาย ได้ หากดูแลรักษาไม่ถูกวิธี
- เนื่องจากต้องมีการอัดบล็อคสำหรับสีทุกสี ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับงานสกรีนที่มีสีสันเยอะมากเกิน (โดยทั่วไป จะใช้กับลวดลายที่สีไม่เกิน 8 บล็อค)
- ไม่เหมาะกับงานจำนวนน้อย เพราะต้องมีค่าบล็อค และใช้ระยะเวลาทำนานกว่างานประเภทดิจิตอล
2. การพิมพ์เสื้อแบบ ซับลิมิชั่น (Sublimation) หรือ Heat Transfer
เป็นการพิมพ์โดยพิมพ์ภาพ หรือ ลวดลายที่ต้องการพิมพ์ ลงบนกระดาษทรานเฟอร์ก่อน แล้วจึงนำมารีดร้อนบนตัวเสื้อเพื่อให้ลายพิมพ์ย้ายเข้าไปอยู่บนชิ้นเสื้อ โดยการพิมพ์ชนิดนี้จะเป็นการสั่งพิมพ์จากเครื่องปริ้น ดังนั้นสีสันที่ออกมาจะขึ้นอยู่กับ การกำหนดค่าสีในไฟล์ตั้งต้น การตั้งค่าเครื่องปริ้น ตลอดจนความร้อนในการรีด
ข้อดี การพิมพ์เสื้อแบบ Sublimation
- สามารถพิมพ์จำนวนน้อยได้ ไม่จำกัดสีที่ใช้
- ไม่ต้องใช้บล็อคสกรีน จึงไม่เสียเวลาในการขึ้นบล็อค
- สีสันสดใส มักได้ผลลัพธ์สีใกล้เคียงตามไฟล์
ข้อเสีย การพิมพ์เสื้อแบบ Sublimation
- สามารถใช้เทคนิคการพิมพ์ซับลิมิชั่นได้เฉพาะกับผ้าโพลีเอสเตอร์เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับผ้าคอตตอนได้ สำหรับผ้าเนื้อผสมเช่น TC สามารถพิมพ์ได้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้สีมักจะจืดกว่าการพิมพ์บนผ้าโพลีเอสเตอร์
3. การพิมพ์เสื้อแบบ Flex
เป็นการพิมพ์โดย จะตัดวัสดุต่างๆเช่น Polyflex, กำมะหยี่, หรือ PU เป็นรูปแบบตามต้องการ โดยเครื่องตัดผ่านโปรแกรม เมื่อตัดเสร็จแล้วจึง นำไปรีดลงบนผ้า หรือ เสื้อ บนตำแหน่งที่ต้องการ การพิมพ์ประเภทนี้ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดของลายพิมพ์
ข้อดี การพิมพ์เสื้อแบบ Flex :
- ไม่ต้องใช้บล็อคสกรีน
- งานพิมพ์ดูเด่น สวยและมีมิติ เนื่องจากTextureของวัสดุที่เลือกใช้
- ขอบงานพิมพ์คมกว่างานสกรีนประเภท Silkscreen
ข้อเสีย การสกรีนเสื้อแบบ Flex :
- งานพิมพ์จะสามารถทำได้แค่สีเดียว
- งานพิมพ์มักไม่ค่อยทน หากดูแลรักษาไม่ดี งานพิมพ์จะหลุดลอกได้
4. งานพิมพ์ แบบ DFT (Digital Film Transfer)
เป็นการพิมพ์โดยปริ้นลายที่ต้องการสกรีนลงบนแผ่นฟิล์ม แล้วจึงมาไปรีดลงบนผ้า หรือ เสื้อ บนตำแหน่งที่ต้องการ การพิมพ์ประเภทนี้ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดของลายพิมพ์ เช่นเดียวกับแบบ Flex
ข้อดี การพิมพ์เสื้อแบบ DFT
- ไม่ต้องใช้บล็อคสกรีน เหมาะกับงานจำนวนน้อยๆ
- งานพิมพ์มีสีสันใกล้เคียงกับไฟล์ต้นฉบับ
- สามารถพิมพ์ได้หลายสีตามต้องการโดยราคาไม่เพิ่มขึ้น
ข้อเสีย การพิมพ์เสื้อแบบ DFT
- งานพิมพ์ DFT จะมีราคาสูงกว่างานSilk Screen
- งานพิมพ์มักไม่ค่อยทน หากดูแลรักษาไม่ดี งานพิมพ์จะหลุดลอกได้
5. การพิมพ์เสื้อแบบ DTG
เป็นงานพิมพ์ที่พิมพ์จากเครื่องปริ้นโดยตรงลงบนผ้า หรือเสื้อ ซึ่งจะได้งานที่ใกล้เคียงกับสีจากไฟล์ต้นฉบับ สามารถพิมพ์ลงบนผ้าได้ทุกสี และทุกประเภทเนื้อผ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำลายข้อจำกัดของการพิมพ์แบบอื่นๆลงได้มาก แต่ราคาค่อนข้างสูง
ข้อดี การสกรีนเสื้อแบบ DTG :
- ใช้กับเนื้อผ้าได้ทุกประเภท ทั้งคอตตอน และโพลีเอสเตอร์ และใช้ได้กับทุกสีผ้า
- สีสันสวย สีสด ตามไฟล์ต้นฉบับ
- เหมาะกับงานพิมพ์จำนวนน้อย เนื่องจากไม่มีค่าบล็อค ไม่จำกัดสี
ข้อเสีย การสกรีนเสื้อแบบ DTG :
- ราคาต้นทุนค่าพิมพ์ค่อนข้างสูง ไม่เหมาะกับงานจำนวนมากที่ต้องการต้นทุนราคาต่ำ โดยเฉพาะบนผ้าสีเข้ม
- สีจะไม่แน่นและหนาได้เหมือนงานสกรีนแบบ Silkscreen
- ขนาดของงานสกรีนจะจำกัดตามแท่นพิมพ์ของเครื่องปริ้น โดยส่วนใหญ่จะประมาณ ไม่เกิน 50 ตารางซม.
6. การสกรีนเสื้อแบบฟอยล์
เป็นการใช้เทคนิค Silkscreen โดยสกรีนกาวเป็นรูปร่างตามที่ต้องการ โดยใช้บล็อคสกรีน สกรีนลงบนผ้าก่อน แล้วจากนั้นนำผ้าไปอบกาว แล้วจึงนำฟอยล์(เงิน-ทอง-สีอื่นๆ) มารีดทับ ฟอยล์จะปรากฏบนผ้าตามลวดลายของกาวที่สกรีนลงไปก่อนหน้านี้
ข้อดี การสกรีนเสื้อแบบฟอยล์
- งานสกรีนจะมีความเงางาม สวยงาม
ข้อเสีย การสกรีนเสื้อแบบฟอยล์
- ลายนึงจะทำได้แค่ 1 สี
- ความเงางามของฟอยล์จะอยู่ไม่ทนมาก หลังการซักใช้งานหลายๆครั้ง และอาจมีการหลุดลอกเล็กน้อยเมื่อใช้งานไปนานๆ
ต้องการสั่งผลิตเสื้อโปโลกับเรา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่